มงกุฏหนามพระเยซูได้ไปแสดงที่พิพิธภัณฑ์อังกฤษแล้ว
หลังจากที่มงกุฎหนามพระเยซูได้ถูกปล้นไปในช่วงสงครามครูเสดครั้งที่ 4 และต่อมาได้ถูกขายต่อให้กับเชื้อพระวงศ์ของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นระยะเวลานานกว่าจะพบว่ามันได้ถูกเก็บที่โรงเรียนรัฐบาลแห่งหนึ่งในอังกฤษ แต่จกระทั่งบัดนี้ก็ยังไม่มีใครแก้ข้อสงสัยได้เลยว่า มงกุฏหนามที่มีประวัติอันยาวนานอันนี้มาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร
วัตถุลึกลับที่เชื่อกันว่าเป็นหนามของมงกุฏหนามที่เคยสวมใส่ศีรษะพระเยซูเมื่อครั้งโดน ตรึงกางเขน ซึ่งถูกเก็บไว้ในวิทยาลัย Stonyhurst ในเมือง Clitheroe แคว้น Lancashire เป็นเวลากว่า 200 ปีมาแล้ว โดยชิ้นส่วนของมงกุฏหนามนี้ได้ถูกนำมาประดับด้วยสร้อยไข่มุข 2 เส้นคู่กัน โดยพระราชินีแมรี่แห่งสก็อต
ภาพแสดงมงกุฏหนามจากเรื่อง The Passion of Christ ที่แสดงเป็นพระเยซูโดย Jim Caviezel
มงกุฏหนามพระเยซูแรกเริ่มเดิมที่ได้อยู่ที่กรุงคอนสแตนตินติโนเปิลซึ่งเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรโรมัน ในสงครามครูเสดครั้งที่ 4 ราวๆคริสตศักราช 1200 มงกุฏหนามอันนี้ได้ถูกขายให้กับพระเจ้าหลุยส์ที่ 4 ซึ่งขณะนั้นพำนักอยู่ที่เมืองเวนิช พระเจ้าหลุยส์ได้เก็บวัตถุโบราณล้ำค่าทางศาสนานี้ไว้ในที่ลับของห้องสวดมนต์ในโบถ์แห่งหนึ่ง ซึ่งต่อมาส่วนที่เป็นหนามเกิดการหักชำรุด และได้ถูกส่งต่อมายังชาวบ้านครอบครัวหนึ่งที่มาแต่งงานแล้วก็ได้กลายเป็นของขวัญและมรตกทอดสืบมา
หนามมงกุฏที่พบที่วิทยาลัย Stonyhurst เป็นหนามมงกุฏที่มีอายุมากกว่า 400 ปี คณะกรรมการคริสตศาสนิกชนประจำโรงเรียนกล่าวว่า หนามมงกุฏอันนี้ได้รับมากจากพระราชินีแมรี่แห่งสก็อต ซึ่งพระราชินีได้รับมาจากการแต่งงานกับเชื้อพระวงศ์ฝ่ายฝรั่งเศสซึ่งเป็นของประจำราชวงศ์ที่เป็นมรดกตกทอดกันมา และหลังจากนั้นพระราชินีแมรี่ก็นำหนามมงกุฏอันนี้มาเก็บไว้ที่เมือง Holyrood ในแคว้น Edinburgh และหลังจากพระราชินีแมรี่ได้ถูกประหารชีวิตในปี 1567 มันก็ได้ถูกส่งต่อมายังคนรับใช้ส่วนพระองค์ของพระราชินีแมรี่ นามว่า Thomas Percy และตกทอดมายังหลานของ Thomas Percy ที่ชื่อว่า Elizabeth Woodruff และต่อมาในปีคริสตศักราช 1600 หล่อนก็ได้มอบต่อให้กับนักบวชที่ทำพิธีล้างบาปให้เธอ และนักบวชผู้นั้นก็ได้นำมาเก็บไว้ในที่วิทยาลัย Ribble Valley (ชื่อเดิมของวิทยาลัย Stonyhurst) จนถึงปัจจุบัน
Thank you for information.
ตอบลบขอบคุณที่มาเยี่ยมชม Blog ร้างๆครับ
ตอบลบ